“เมื่อมีคนถามว่าฉันกลายมาเป็นนักมานุษยดนตรีวิทยาได้อย่างไร…ฉันจะตอบอย่างรวดเร็วและมั่นใจ มันคือการตระหนักได้อย่างฉับพลันขณะยืนอยู่ริมผาของเทือกเขาแอนดีสที่มาชูปิกชู (เปรู) ในปี 1962 เสียงเมโลดี้ที่ยากจะลืมของขลุ่ยลอยขึ้นมาจากหุบเหวเบื้องล่าง…เสียงเมโลดี้นี้จู่โจมฉันประหนึ่งสายฟ้าฟาด ‘มันต่างออกไป’ ทำไมไม่เคยมีใครบอกฉันว่ามีดนตรีแบบอื่นๆ อีกในโลก ที่แย่กว่านั้นก็คือ ทำไมฉันไม่เคยสังเกตเห็นดนตรี ‘แบบอื่น’ เลย”

นี่คือสิ่งที่บอนนี ซี. เวด (Bonnie C. Wade) นักมานุษยดนตรีวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรีเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเขียนเล่าเอาไว้ในสารานุกรมดนตรีโลก (Garland Encyclopedia of World Music Vol.10) 

อ่านแล้วก็นึกถึงตัวเอง ฉันเองไม่ใช่นักมานุษยดนตรีวิทยา ผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรี นักดนตรี หรืออะไรทั้งนั้น แต่มีสิ่งหนึ่งที่ฉันและศาสตราจารย์เวดมีร่วมกัน นั่นคือ เราจำประสบการณ์ครั้งแรกที่ได้สัมผัสสิ่งที่เรียกว่าดนตรีโลก (world music) ได้ ฉันไม่ได้ไปยืนฟังเสียงขลุ่ยที่มาชูปิกชู ประสบการณ์การได้ยินเสียงดนตรีและรู้สึกว่าเสียงดนตรีที่ได้ยินนี้ “ต่างออกไป” ของฉันคือการได้ฟังเพลงจากซีดีชุด Putumayo Kids หน้าปกเป็นรูปวาดสวยแปลกตา ทว่าความรู้สึกนั้นไม่ได้ถูกสานต่อแต่อย่างใด

ผ่านมาสิบกว่าปี โชคชะตาพัดพาให้ไปอยู่ที่เมลเบิร์นช่วงสั้นๆ ได้บังเอิญไปรู้จักบาร์เล็กๆ ชื่อโอเพ่นสตูดิโอ (Open Studio) แห่งย่าน Northcote

และที่โอเพ่นสตูดิโอแห่งนี้ ไม่มีคืนไหนที่ซ้ำกันเลย

The amazing Laki Vallejo and her band at Open Studio, Melbourne 2018 (Photo by me)

ฉากหลังนั้นเหมือนเดิม ประตูสีเลือดหมู กำแพงสีแดงแซมขาว โต๊ะวงกลมเล็กๆ เพียงสิบกว่าโต๊ะที่มีผ้าคลุมลายตารางแดงขาวเข้าธีม ลำโพงใหญ่สองอัน และหน้าต่างบานใหญ่ที่มีคำว่า Open Studio ติดอยู่ ที่หน้าต่างนี้ ถ้ามาเร็วหน่อย ประมาณสักห้าโมงเย็นของบ่ายวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ เราจะมองเห็นรถรางด้านนอกที่จะบอกให้รู้ว่าอยู่ที่เมลเบิร์น แต่ถ้ามาถึงที่นี่ประมาณสองทุ่มหรือสี่ทุ่ม สปอตไลต์จะส่องเต็มที่มาที่ภายในสตูดิโอ ลืมรถราด้านนอก ลืมหนาว จะมีก็แต่เสียงดนตรีกระหึ่มผ่านลำโพงกับแสงเทียนสีส้มสลัวจากเทียนดวงเล็กๆ บนโต๊ะลายตารางหมากรุกเท่านั้นที่อยู่ในการรับรู้

ทุกคืนที่โอเพ่นสตูดิโอ ฉากหลังนั้นเหมือนเดิม แต่ฉากหน้าสิเปลี่ยนไป บางคืนด้านหน้าหน้าต่างบานนั้นจะมีกีตาร์ กลองคองโกและบองกา คลาเว่ เบส และกับนักดนตรีเกือบสิบคนกำลังบรรเลงดนตรีจังหวะร้อนแรง นั่นเป็นคืนแห่งซัลซ่าและคุมเบีย บางคืนมีเพียงเปียโนอัปไรต์กับอูคูเลเล่และหญิงสาวในชุดกระโปรงแดงจุดขาว หรือบางคืนกลับมีเพียงอิเล็กโทน กีต้าร์ไฟฟ้า และหญิงสาวคนหนึ่งกำลังร้องเปล่งเพลงแนวโซล บางคืนเป็นแจ็สไนต์ ยังมีค่ำคืนของดนตรีพื้นถิ่นของอิตาลี วงโซล วงสวิง และดนตรีคันทรี ฉันกระทั่งเคยมาที่นี่เพื่อจะมาดูเดี่ยวมิวสิคัลคอมเมดี้ อ้อ แล้วยังมีวงดนตรีตุรกีที่ฉันพาเพื่อนชาวตุรกีสามคนมาแดนซ์ด้วย มีคนเคยถามฉันว่ามาที่นี่บ่อยๆ เจอคนหน้าซ้ำกันบ้างหรือเปล่า ไม่เลย ฉันตอบ บางครั้ง ฉันมาที่นี่แทบจะวันเว้นวัน แต่แทบจะไม่เจอคนกลุ่มเดียวกันเลย

โอเพ่นสตูดิโอคือห้องเรียนดนตรีโลกของฉัน ดนตรีหลากหลายจากทุกมุมโลกหมุนเวียนกันมาแสดงบนเวที ซึ่งเป็นเพียงพื้นที่ว่างเล็กๆ หน้ากระจกแห่งนี้

เอาละ ขี้เกียจอารัมภบทต่อแล้ว ขอตัดริบบิ้นเปิดตัวบล็อกเกี่ยวกับดนตรีโลกบล็อกนี้เลยก็แล้วกัน แล้วก็มีเพลงมาฝากด้วย

เพลง Procura นี้เป็นเพลงดังของนักดนตรีที่ฉันชื่นชอบอย่าง ChiChi Peralta ศิลปินชาวโดมินิกัน ไว้วันหลังจะมาเล่าถึงนายคนนี้ให้ฟังกัน

  • ใครมีโอกาสผ่านไปเมลเบิร์นละก็ ลองแวะโอเพ่นสตูดิโอดูสิ ไม่แน่ โลกดนตรีของคุณก็อาจจะเปลี่ยนไปเช่นกัน: ดูเพจเฟซบุ๊ก Open Studio
  • ชมปกซีดีสวยๆ ของค่ายเพลง Putumayo ที่วาดโดยศิลปินชาวอังกฤษนาม Nicola Heindl ได้ที่นี่

Published by Pinda P.

"I wished to live deliberately..., and not, when I came to die, discover that I had not lived."

Leave a comment

Design a site like this with WordPress.com
Get started